แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มีความสำคัญยิ่งกว่าการที่ธุรกิจจะมีคลังสินค้า คือการที่คลังสินค้านั้นจำเป็นที่จะต้องมีความสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถรองรับกับการเติบโตได้อย่างมั่นคง วันนี้ GCI Warehouse จะขอพาผู้ประกอบการทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับประเภทของคลังสินค้าในแบบต่าง ๆ เพื่อการเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจมากที่สุด
ประเภทของคลังสินค้าแบ่งตามประเภทของโครงการ
1. คลังสินค้าส่วนตัว (Private Warehouse)
คลังสินค้าส่วนตัว ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเภทของคลังสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการมากที่สุด เนื่องจากมีข้อดีในด้านของความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ที่เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการสามารถวางแผนการบริหารจัดการเพื่อการควบคุมพื้นที่ใช้สอยและรูปแบบการดำเนินงานภายในคลังสินค้าได้อย่างไม่จำกัด โดยที่ไม่มีผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการพบเจอปัญหาสินค้า อะไหล่ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ สูญหายหรือเสียหาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ ดำเนินกิจกรรมรุกล้ำเข้ามาภายในพื้นที่คลังสินค้าของเรา จนอาจส่งผลให้การดำเนินธุรกิจต้องหยุดชะงักไปจนต้องสูญเสียโอกาสในการเติบโตและการสร้างผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับประเภทของคลังสินค้าส่วนตัวนั้นจะสามารถแบ่งลงไปได้อีก 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทคลังสินค้าสั่งสร้าง และประเภทคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งทั้งคลังสินค้าสั่งสร้างและคลังสินค้าให้เช่านั้นก็มีรูปแบบและจุดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำการเลือกซื้อหรือเลือกบริการคลังสินค้าให้เช่าได้อย่างตอบโจทย์กับการดำเนินธุรกิจมากที่สุด ดังนี้
- ประเภทคลังสินค้าสั่งสร้าง เรียกได้ว่าเป็นประเภทที่เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการสามารถสั่งสร้างขึ้นมาได้อย่างอิสระ รวมถึงสามารถกำหนดเงื่อนไขในการออกแบบได้อย่างไม่จำกัดทั้งการกำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอย รูปทรงและสีของคลังสินค้า รวมไปถึงการกำหนดพื้นที่ในการจัดวางประตู หน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศต่าง ๆ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการจะสั่งสร้างคลังสินค้าขึ้นมาสักแห่งหนึ่งนั้นก็มีข้อจำกัดที่มากมายกว่าการเลือกใช้งานคลังสินค้าส่วนตัว ประเภทคลังสินค้าให้เช่า ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเวลา ค่าใช้จ่าย รวมถึงสถานที่สำหรับก่อสร้างคลังสินค้าที่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องทำการสั่งสร้างภายในพื้นที่ที่ทางเจ้าของโคงการได้ทำการกำหนดเอาไว้เท่านั้น
- ประเภทคลังสินค้าให้เช่า เป็นอีกหนึ่งประเภทของคลังสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมจากเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการหลาย ๆ คนมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องด้วยข้อดีที่โดดเด่นในด้านของทำเลที่ตั้งของคลังสินค้าให้เช่าที่ทางเจ้าของโครงการคัดสรรทำเลทองมาก่อสร้างคลังสินค้าให้เช่าโดยเฉพาะ รวมไปถึงข้อดีในด้านของค่าใช้จ่ายในการเช่าและการซ่อมแซมบำรุงรักษาคลังสินค้าให้เช่าที่น้อยกว่าคลังสินค้าสั่งสร้าง จึงทำให้โดยทั่วไปแล้ว ประเภทคลังสินค้าให้เช่า จึงเป็นประเภทที่มักจะได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการที่กำลังมองหาคลังสินค้าส่วนตัวมาใช้งานเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ด้วยเหตุผลในด้านของการเตรียมตัวขยายและย้ายฐานการผลิตไปในพื้นที่อื่น ๆ หรือเหตุผลในด้านของการต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในการจัดเก็บสินค้าและอะไหล่ต่าง ๆ เพื่อรองรับกับปริมาณการผลิตและการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น
2. คลังสินค้าสาธารณะ (Public warehouse)
เป็นหนึ่งในประเภทที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มของพ่อค้าและแม่ค้าหน้าใหม่ในยุคดิจิตอล ที่ต่างก็หันมาเริ่มต้นลงทุนและเปิดร้านขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ รวมไปถึงเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีเงินลงทุนไม่มากนัก เนื่องจากคลังสินค้าสาธารณะเป็นคลังสินค้าให้เช่าที่เปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการหลาย ๆ คนสามารถเข้ามาเช่าและใช้งานพื้นที่ภายในคลังสินค้าให้เช่าเพื่อการจัดเก็บสต๊อคสินค้าร่วมกัน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าคลังสินค้าแบบส่วนตัว ที่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงและมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เกินกว่าความจำเป็นของธุรกิจค้าขายออนไลน์ส่วนใหญ่นั่นเอง
ประเภทของคลังสินค้าแบ่งตามขนาดของคลังสินค้า
1. คลังสินค้าขนาดเล็ก
โดยทั่วไปแล้วสำหรับคลังสินค้าขนาดเล็ก มักจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในคลังสินค้าทั้งหมดอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับธุรกิจ SME หรือธุรกิจขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่ยังต้องมีการเก็บสินค้าไม่มากนัก
2. คลังสินค้าขนาดกลาง
เป็นคลังสินค้าที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นทั้งหมด 1,200 ตารางเมตร ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5,000 ตารางเมตร ที่เรียกได้ว่าเป็นขนาดของคลังสินค้าที่ได้รับความนิยมจากเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการในหลาย ๆ ธุรกิจมากที่สุด เนื่องจากขนาดดังกล่าวถือเป็นขนาดที่จะสามารถรองรับกับการจัดเก็บวัตถุดิบ ชิ้นส่วน สินค้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการผลิต รวมไปถึงสินค้าสำเร็จรูปที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างพอดี และสามารถรองรับการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตต่อไปข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม
3. คลังสินค้าขนาดใหญ่
เป็นคลังที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 5,000 ตารางเมตร ขึ้นไป เพื่อให้สามารถรองรับการจัดเก็บชิ้นส่วน อะไหล่ และสินค้าสำเร็จรูปในปริมาณมาก ๆ รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านระบบโลจิสติกส์เพื่อการหมุนเวียนและกระจายสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ เหล่านี้ไปยังคลังสินค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ตลอดจนร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก และผู้บริโภคทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
