โกดังมีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

     หากคุณเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ หรือกำลังมองหาพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโต การเลือกโกดังให้ตรงกับความต้องการคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้า แต่โกดังมีกี่ประเภท? แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับธุรกิจของคุณ? วันนี้ GCI Warehouse ขอพาคุณมาทำความรู้จักประเภทโกดังยอดนิยม และแนวทางเลือกโกดังให้ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ

ประเภทของโกดังที่ควรรู้จัก

1. โกดังมาตรฐานทั่วไป (General Warehouse)

     โกดังประเภทนี้จะโครงสร้างโดยรวมเป็นอาคารโล่ง เหมาะสำหรับการจัดเก็บสินค้าที่ไม่ต้องการสภาพแวดล้อมเฉพาะทาง เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป อุปกรณ์ต่างๆ หรือวัตถุดิบที่ไม่เน่าเสียง่าย

2. โกดังควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (Temperature-Controlled Warehouse)

      โกดังประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อดูแลสินค้าอย่างใกล้ชิด มีระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่แม่นยำ เพื่อคงคุณภาพของสินค้าที่ไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น อาหารสด/แช่แข็ง , ผักผลไม้ , ยาและเวชภัณฑ์ หรืออิเล็กทรอนิกส์บางชนิด

3.โกดังแบบศูนย์รวมสินค้า (Fulfillment Center)

     โกดังประเภทนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่เก็บสินค้า แต่ยังมาพร้อมกับบริการครบวงจร ตั้งแต่การรับสินค้าเข้า การจัดเก็บ การหยิบและแพ็คสินค้า ไปจนถึงการจัดส่ง ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจ E-commerce หรือธุรกิจที่ไม่ต้องการลงทุนกับการบริหารจัดการคลังสินค้าเอง

4. โกดังศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center)

      โกดังศูนย์กระจายสินค้าเน้นความเร็วในการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าหรือสาขาต่าง ๆ มากกว่าการจัดเก็บในระยะยาว การจัดวางและเคลื่อนย้ายภายในโกดังต้องมีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับธุรกิจที่ต้องหมุนเวียนสต๊อกเร็ว

โกดังแบบไหนเหมาะกับคุณ

      การเลือกประเภทโกดังที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง GCI Warehouse ขอสรุปหัวข้อหลักๆ มาให้ดังต่อไปนี้ค่ะ

 1.ประเภทของสินค้า

      หากสินค้าของคุณเป็นสินค้าทั่วไปไม่เน่าเสียง่าย การเลือกโกดังสำหรับเช่าทั่วไป จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่หากสินค้าของคุณเป็นพวกอาหารสด ยา สารเคมีหรือสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ โกดังที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นได้จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

2.งบประมาณ

      ก่อนจะเช่าโกดังคุณจะต้องรู้ว่าคุณมีงบประมาณในการเช่าในแต่ละเดือนประมาณเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้เดือดร้อนในอนาคต คุณจำเป็นต้องพิจารณาค่าเช่ารายเดือน ค่าบริการเพิ่มเติม (เช่น ค่าไฟสำหรับห้องเย็น) และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

3.ปริมาณและขนาดของสินค้า

      คุณต้องประเมินว่าต้องการพื้นที่จัดเก็บมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกขนาดโกดังที่เหมาะสม ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไปพิจารณาเรื่องความสูงของโกดังและระบบการจัดเก็บ เช่น ชั้นวางสินค้า เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

4.ที่ตั้งของโกดัง

     เลือกโกดังที่ใกล้กับแหล่งผลิต ซัพพลายเออร์ หรือลูกค้าของคุณ เพื่อลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งพิจารณาเส้นทางการขนส่งและความสะดวกในการเข้า-ออก

5.บริการเพิ่มเติม

      คุณต้องการบริการเสริมอะไรบ้าง? เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ระบบป้องกันอัคคีภัย การจัดการสต็อก หรือบริการโหลดและขนถ่ายสินค้า

สรุป

     การเลือกโกดังที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งประเภทสินค้า งบประมาณ และความต้องการเฉพาะ การใช้เวลาศึกษาและเปรียบเทียบจะช่วยให้คุณได้โกดังที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด

      หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโกดังประเภทไหน ทาง GCI Warehouse ยินดีให้คำปรึกษา พร้อมแพ็กเกจโกดังและห้องเก็บของทั้งหมด 4 แบบให้เลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณ